เจาะลึกทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับพลาสติกเกรดอาหาร

พลาสติกเกรดอาหารทนร้อนดี ไม่ทิ้งสาร

พลาสติกมีอยู่หลากหลายประเภท จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่อาหาร ที่จำเป็นจะต้องเลือกใช้ Food Grade Plastic เท่านั้น แต่ Food Grade Plastic คืออะไร? ติดตามอ่านต่อได้ในบทความนี้

พลาสติกเกรดอาหาร (Food Grade Plastic) คืออะไร?

พลาสติกเกรดอาหาร หรือ Food Grade Plastic คือพลาสติกที่สัมผัสอาหารแล้วจะไม่มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่บนอาหาร ทำให้อาหารที่ใส่ในบรรจุภัณฑ์นั้นปลอดภัยต่อการรับประทาน ส่วนใหญ่พลาสติกเกรดอาหารจะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความเหนียวของเนื้อพลาสติก และทนทานต่ออุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นของอาหาร แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกที่ใช้ด้วย

ทำไมต้องเลือกใช้พลาสติกเกรดอาหาร?

พลาสติกนั้นมีหลายชนิด และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป บางชนิดสามารถทนความร้อนได้ดี บางชนิดไม่สามารถทนความร้อนได้และอาจเกิดปฏิกิริยาบางอย่าง ทำให้ปล่อยสารเคมีออกมาเมื่อสัมผัสกับความร้อน หรือพลาสติกบางชนิดอาจมีสารเคมีตกค้างอยู่บนพื้นผิวโดยไม่สามารถล้างออกได้ ซึ่งสารเคมีอันตรายเหล่านี้ หากเข้าไปปะปนกับอาหารแล้วถูกรับประทานเข้าไป ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เราจึงจำเป็นต้องเลือกพลาสติกที่มั่นใจว่าจะไม่มีสารเคมีตกค้างอยู่ และมีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนต่ออุณหภูมิ และจะไม่ทำปฏิกิริยากับอาหารจนเกิดสารเคมีปะปน

ซึ่งพลาสติกเกรดอาหารนั้นเป็นหนึ่งในมาตรการ Food Grade ที่ทาง FDA หรือองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้กำหนดขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาหารเลือกใช้วัสดุ บรรจุภัณฑ์ และส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และมาตรฐาน Food Grade นี้ก็ไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่พลาสติกเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ซิลิโคน แอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลหรือล้างมือ และอื่น ๆ อีกด้วย

จะสังเกตพลาสติกเกรดอาหารได้อย่างไร?

food grade plastic คือพลาสติกที่ใส่อาหารได้อย่างปลอดภัย

หากต้องการทราบว่าภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ใด ๆ ผลิตจากพลาสติกเกรดอาหารหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ FOOD SAFE บนพลาสติกนั้น ๆ โดยที่สัญลักษณ์ FOOD SAFE นี้จะเป็นรูปแก้วไวน์อยู่คู่กับส้อม อย่างไรก็ตาม พลาสติกบางชนิดอาจไม่ได้มีการปั๊มสัญลักษณ์ FOOD SAFE เอาไว้ แต่คุณสามารถสังเกตพลาสติกนั้น ๆ ได้จากชนิดของพลาสติกที่ใช้ในการผลิต

ชนิดของพลาสติกที่เป็นพลาสติกเกรดอาหาร

1.PETE (Polyethylene Terephthalate)

พลาสติก PETE หรือ พลาสติก PET เป็นพลาสติกที่มีสีใส มีลักษณะเหนียว มีความยืดหยุ่นสูงต่อแรงกระแทก และทนทาน ถึงแม้จะไม่ได้มีคุณสมบัติในเรื่องของการทนความร้อนมากนัก แต่ก็ไม่มีสารเคมีตกค้าง และปลอดภัยที่จะใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทขวดน้ำดื่ม น้ำมันโหลขนม กระปุกอาหาร และสามารถนำไปเคลือบบรรจุภัณฑ์อย่างซองขนม และกล่องอาหารพลาสติกได้ด้วย

2.HDPE (High Density Polyethylene Terephthalate)

HDPE คือ พลาสติกชนิดความหนาแน่นสูง และมีความยืดหยุ่น มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทนทาน ไม่แตกหรือหักง่าย งอตัวได้ดี ป้องกันความชื้นได้ ทนความร้อนได้เล็กน้อย แต่สามารถทนความเย็นได้ดี เหมาะกับการบรรจุอาหารแช่แข็ง นอกจากนี้ ยังทนทานต่อสารเคมี โดยพลาสติกประเภทนี้ยังโดดเด่นในเรื่องของความแข็งแรง แต่จะไม่สามารถทำให้มีสีใสได้ ตัวอย่างที่พบได้มากคือขวดนมที่มีสีขุ่น

3.LDPE (Low Density Polyethylene Terephthalate

LDPE คือ พลาสติกชนิดความหนาแน่นต่ำ สามารถทำให้เป็นแผ่นบางมากได้ มักพบได้ในรูปแบบของพลาสติกห่ออาหาร ถุงขนมปัง ถุงพลาสติกหูหิ้ว หลอดอาหาร และถุงเย็นสำหรับบรรจุอาหาร คุณสมบัติที่โดดเด่นคือ มีความยืดหยุ่นสูง เหนียว ป้องกันการผ่านของความชื้นได้ดี แต่จะไม่สามารถทนความร้อนสูงได้

4.PP (Polypropylene)

PP หรือ โพลีโพพีลีน เป็นพลาสติกแข็ง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี แต่งสีสันให้สวยได้ ทนต่อความร้อน สารเคมี และน้ำมันได้ดี นิยมนำมาผลิตเป็นภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารแบบใช้ซ้ำได้ รวมถึงขวดนมเด็ก และยังนิยมนำมาใช้ผลิตเป็นถุงร้อนสำหรับบรรจุอาหารอีกด้วย

เมื่อรู้แล้วว่า Food Grade Plastic คืออะไร สำคัญอย่างไร อย่าลืมเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกเกรดอาหารในการบรรจุอาหารและเครื่องดื่มเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจ สามารถเลือกบรรจุภัณฑ์จาก KPAC Industry เรามีบรรจุภัณฑ์พลาสติกเกรดอาหารที่สามารถนำไปใช้ได้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล admin01@kpacindustry.co.th หรือ โทร. 034-881-221, 096-549-9499, 062-602-2200 และช่องทางอื่น ๆ ของ KPAC INDUSTRY ต่อไปนี้
Facebook: KPAC
Instagram: kpac_industry
Line ID: @kpac